วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

สถานที่ท่องเที่ยวใน จ.เลย




ภูกระดึง
ผานกแอ่น
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นมีดอกกุหลาบป่าขึ้นเป็นดงใหญ่ ซึ่งบานสะพรั่งในเดือนมีนาคม-เมษายน
ผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง
นอกจากนี้ยังมี ผาหมากดูก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น
การเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เลย แล้วลงที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากจุดนี้จะมีรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติ ภูกระดึงหรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมแพแล้วลงที่ตลาดชุมแพแล้วต่อรถสายชุมแพ-ผานกเค้า ไปลงที่ผานกเค้า ซึ่งจะมีรถสองแถวไปที่ทำการอุทยานฯ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าสู่ยอดภูกระดึงระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถส่วนตัวจากตัวเมืองเลยใช้เส้นทางหมายเลข 201(เลย-ภูกระดึง) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 75 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 อีก 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ





อุทยานแห่งชาติภูเรือ
มีลักษณะแปลกคือมีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือหัวเรือสำเภา ลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสลับซับซ้อนประกอบด้วยเขาหินทรายและหินแกรนิตสลับกันสัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีและเป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในประเทศ จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งซึ่งภาษาพื้นบ้านเรียกว่า แม่คะนึ้ง อุทยานฯมีเนื้อที่ประมาณ 75,525 ไร่ ช่วงเดือนที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวคือ เดือน ตุลาคม-มีนาคม
สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่ จุดชมทิวทัศน์เดโช เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่อากาศดีนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆของเมืองเลยได้  ผาโหล่นน้อย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากจากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และทะเลภูเขาสลับซับซ้อน  ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เป็นหน้าผาสูงชันและแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทองขึ้นเต็มอยู่ทั่วบริเวณ   น้ำตกห้วยไผ่ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันมีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้นำไปใช้ทำเป็นประปาในอำเภอภูเรือด้วย     ยอดภูเรือ เป็นจุดที่สูงสุดในอุทยานฯอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,365 เมตรบริเวณโดยรอบเป็นลานหินที่มีทุ่งหญ้าขึ้นแซมสลับกับป่าสน มีทั้งสนสองใบที่ขึ้นตามธรรมชาติ และสนสามใบที่เป็นสนปลูก จากจุดนี้ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพรมแดนกั้นระหว่างไทยลาวได้  นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน
 หินพานขันหมาก หินพระศิวะ สวนหินเต่า ทุ่งหินเหล็กไฟ ซึ่งหินเหล่านี้มีรูปร่างตามชื่อเรียกตั้งท่ามกลางทุ่งหญ้า ช่วงปลายฝนต้นหนาวมีดอกไม้เล็กๆขึ้นอยู่ทั่วไปน่าชมมาก                            








อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว
อยู่ในเขตอำเภอนาแห้ว มีพื้นที่ทั้งหมด 73,225 ไร่ ภูมิประเทศประกอบด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาวจากเหนือจรดใต้ สภาพป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้งที่มีไม้ผลัดใบผสม ตามพื้นที่สูงเป็นป่าดิบเขาเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างแผ่นดินไทย-ลาว สัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ เลียงผา หมาใน นกเหยี่ยว เต่าปูลู
สถานที่น่าสนใจภายในเขตอุทยานฯ ได้แก่
 น้ำตกคิ้ง  อยู่ริมเส้นทางหลวงสายแสงภาเหล่าก่อ อยู่ในลำน้ำแพร่ ตัวน้ำตกมีลักษณะเป็นแก่งหินลดหลั่นลงมา  ที่จุดนี้ทางราชการได้ก่อสร้างเรือนประทับถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เสด็จเมื่อวันที่ 12  กุมภาพันธ์ 2534
 น้ำตกช้างตก  อยู่เหนือน้ำตกคิ้งขึ้นไป 500 เมตร อยู่ในลำน้ำแพร่ แต่มีความลาดชันมากกว่า
 น้ำตกวังตาด  อยู่เหนือน้ำตกช้างตก 1.5 กิโลเมตร อยู่ในลำน้ำแพร่เช่นกัน
 น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว)  อยู่ในลำน้ำเหือง มีความลดหลั่นลงมา 3 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี บริเวณรอบ ๆ มีความร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อน และเป็นน้ำตกที่แบ่งเขตพรมแดนระหว่างไทย-ลาว
 น้ำตกผาค้อ  อยู่ในลำน้ำเหือง เป็นลำน้ำที่เป็นเส้นแบ่งเขตพรมแดนระหว่างไทย-ลาว บริเวณโดยรอบมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น อากาศร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน
 หินสี่ทิศ  อยู่บนเทือกเขาภูตีนสวนทราย ทางด้านทิศใต้มีหินอยู่ 4 ก้อน โผล่ขึ้นกลางป่าดงดิบ ชาวบ้านขึ้นไปสักการะทุก ๆ 3 ปี ชาวบ้านเรียกว่า 2 ปีหาม 3 ปีครอบ หมายถึง ขึ้นไปทำบุญ 1 ครั้ง แล้วเว้นไปอีก 2 ปี ขึ้นไปสักการะอีก เรียกว่า บุญภูใหญ่ หรือบุญสวนเมี่ยง จะทำราวปลายเดือน 3 หรือ เดือน 4 ไม่มีกำหนดวันที่แน่นอน
 หินก่วยหล่อ  อยู่บนภูตีนสวนทราย เป็นหินทรายรูปร่างคล้ายดอกเห็ดตูมโผล่ขึ้นมากลางป่าดงดิบ
 จุดชมวิว เนิน  1408  บนตีนภูสวนทราย เป็นจุดที่สูงที่สุดและเป็นจุดใจกลางของอุทยานฯ หากมองลงไปทางทิศตะวันออกและทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเห็นบ้านบ่อเหมืองน้อย บ้านแสงภา อำเภอนาแห้วได้ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงามอีกด้วย
 จุดชมวิว เนิน 1205  เป็นจุดชมวิวในระยะใกล้ สามารถมองเห็นบ้านห้วยน้ำผักอยู่ด้านล่าง และเห็นวิวของภูสวยดาว ภูเวียงประเทศลาวได้





อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ จากอำเภอหนองหินเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ภายในสวนหินผางามมีเส้นทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ นอกจากนี้ ตลอดเส้นทางยังมีโอกาสพบเห็นต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี สวนหินแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า คุนหมิงเมืองเลยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำชมสวนหินผางามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ค่านำชม 100 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่ อบต.หนองหิน โทร. 08 1462 1719




 เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ในช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้งมองเห็นเกาะแก่งชัดเจนมีโค้งสันทรายริมแม่น้ำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสสายน้ำโขงและธรรมชาติสองฝั่งอย่างใกล้ชิด ท่าเรือบริเวณลานจอดรถมีบริการเช่าเรือยนต์ล่องแม่น้ำโขงโดยใช้เวลาไป-กลับประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาหารเช่นไก่ย่าง ส้มตำ ลาบ โดยเฉพาะพล่า กุ้งเต้น ต้มยำปลาจากลำน้ำโขงเป็นอาหารแนะนำในราคาไม่แพง การเดินทางจากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไปแก่งคุดคู้ได้ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น